เมนู

พระวินัยปืฎก จูฬวรรค [5. ขุททกวัตถุ ขันธกะ] ขุททกวัตถุ
พระเจ้าพิมพิสารจอมทัพมคธรัฐมีพระราชประสงค์จะเสวยมะม่วง ลำดับนั้น
พระเจ้าพิมพิสารจอมทัพมคธรัฐ จึงรับสั่งเจ้าหน้าที่ทั้งหลายว่า “ท่านจงไปสวน
เก็บผลมะม่วงมา”
เจ้าหน้าที่เหล่านั้นรับพระราชดำรัสแล้วไปที่สวน บอกคนเฝ้าสวนว่า “นาย
พระราชามีพระราชประสงค์จะเสวยผลมะม่วง ท่านจงให้ผลมะม่วง”
คนเฝ้าสวนตอบว่า “มะม่วงไม่มี ภิกษุสอยผลอ่อน ๆ ไปฉันหมดแล้ว”
ครั้งนั้น เจ้าหน้าที่เหล่านั้นนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระเจ้าพิมพิสารจอมทัพมคธ
รัฐให้ทรงทราบ
ท้าวเธอตรัสว่า “ภิกษุฉันมะม่วงหมดก็ดีแล้ว แต่พระผู้มีพระภาคทรงสรรเสริญ
การรู้จักประมาณ”
คนทั้งหลายตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า “ไฉนพวกพระสมณะเชื้อสาย
ศากยบุตรไม่รู้จักประมาณ ฉันมะม่วงของพระราชาหมดเล่า”
ภิกษุทั้งหลายได้ยินคนทั้งหลายตำหนิ ประณาม โพนทะนา ฯลฯ
ครั้งนั้นแล ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงฉันมะม่วง รูปใดฉัน ต้อง
อาบัติทุกกฏ”

เรื่องสมาคมถวายชิ้นมะม่วง
สมัยนั้น สมาคมหนึ่งถวายสังฆภัต ใส่ชิ้นผลมะม่วงในกับข้าว ภิกษุทั้งหลาย
ยำเกรงอยู่จึงไม่ยอมรับประเคน
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอรับประเคนฉันเถิด ภิกษุ
ทั้งหลาย เราอนุญาตมะม่วงเป็นชิ้น ๆ”


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 7 หน้า :13 }


พระวินัยปืฎก จูฬวรรค [5. ขุททกวัตถุ ขันธกะ] ขุททกวัตถุ
เรื่องผลไม้ที่สมควรแก่สมณะ
สมัยนั้น สมาคมหนึ่งถวายสังฆภัต พวกเขาไม่รู้จักทำมะม่วงเป็นชิ้น ๆ จึงนำ
เข้าไปในโรงอาหารทั้งผล ภิกษุทั้งหลาย ยำเกรงอยู่จึงไม่ยอมรับประเคน
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอรับประเคนฉันได้ ภิกษุ
ทั้งหลาย เราอนุญาตให้ฉันผลไม้ที่สมควรแก่สมณะ 5 อย่าง คือ
1. ผลไม้ที่ลนไฟ 2. ผลไม้ที่กรีดด้วยศัสตรา
3. ผลไม้ที่จิกด้วยเล็บ 4. ผลไม้ที่ไม่มีเมล็ด
5. ผลไม้ที่ปล้อนเอาเมล็ดออกแล้ว
ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ฉันผลไม้ที่สมควรแก่สมณะ 5 อย่างนี้แล”

เรื่องภิกษุถูกงูกัด 1
[251] สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งถูกงูกัดถึงแก่มรณภาพ
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นคงจะไม่ได้แผ่เมตตาจิตให้
ตระกูลพญางู 4 ตระกูล เพราะถ้าภิกษุนั้นแผ่เมตตาจิตให้ตระกูลพญางู 4 ตระกูลนี้
ภิกษุนั้นก็จะไม่ถูกงูกัดถึงแก่มรณภาพ

ตระกูลพญางูทั้ง 4
ตระกูลพญางู 4 ตระกูล คือ
1. ตระกูลพญางูชื่อวิรูปักษ์ 2. ตระกูลพญางูชื่อเอราปถะ
3. ตระกูลพญางูชื่อฉัพยาบุตร 4. ตระกูลพญางูชื่อกัณหาโคตมกะ

เชิงอรรถ :
1 องฺ.จตุกฺก. (แปล) 21/67/110-112

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 7 หน้า :14 }